เช่ารถขับเอง เที่ยวถนนคนเดินสู้ศึก ด้วยงบ 2 พัน

เช่ารถขับเอง เที่ยวถนนคนเดินสู้ศึก ด้วยงบ 2 พัน

BANANA rent-a-car จะขอให้คุณเช่ารถขับเอง เดินทางไปยังถนนคนเดินแห่งใหม่ ถอดด้าม ที่ "ตลาดสู้ศึก" หรือ "ตลาดสู้ศึกคึกคัก" ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่จะเป็นห้องแถวไม้เก่าๆ ทำให้คุณย้อนยุคไปในยุคมหาสงครามเอเชียบูรพา ที่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลก ครั้งที่ 2 ทั้งนี้จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจแค่ไหน ลองไปติดตามกันดู และยังไปไหนได้อีก ก็ลองมาติดตามกันได้เลย

มาทำความรู้จัก "ถนนคนเดินสู้ศึก" ก่อนที่จะเช่ารถขับเองไปเที่ยวกัน

ถนนคนเดินสู้ศึก ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นถนนติดริมทะเลอ่าวประจวบ ไปถึง กองบิน 5 กองทัพอากาศ ใกล้ๆ อ่าวมะนาว โดยเส้นนี้มีประวัติศาสตร์สำคัญก็คือเป็นพื้นที่ที่กองทัพจักรพรรดิญี่ปุ่น ได้ยกพลขึ้นบก เพื่อผ่านประเทศไทย ไปยังประเทศเมียนมา ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 แต่ด้วยความรวมใจของชาวบ้านของเมืองสามอ่าว ก็ได้รวมพลังต่อสู้กับกองทัพอันเกรียงไกร จากแดนอาทิตย์อุทัย อย่างกล้าหาญ

ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นถนนคนเดินในทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา เวลา 16.00 - 20.00 น. อีกทั้งในวันเดียวกัน ในช่วงเช้า เวลา 7.00 - 8.00 น. เขามีกิจกรรมตักบาตรรำลึกถึงวีรชนสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย บรรยากาศจะเป็นห้องแถวไม้เก่าที่จะพาย้อนสมัยที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเดินทัพจากไทยต่อไปยังประเทศพม่า มาเที่ยวที่นี่จึงมีฟีลญี่ปุ่นเบาๆ มีกราฟฟิตี้ถ่ายรูปเก๋ๆ ไว้ลงไอจี หรือ ไอจี สตอรี่ ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านจารย์ไก่ ที่เก็บเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของถนนเส้นนี้ และ ศาลจ้าวพ่อหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ (เจ้าพ่อยูวาเซ็น) ที่ชาวประจวบ ให้การเคารพกราบไหว้ หากจะมองหาที่พัก ก็มีโรงแรมติดริมทะเล ตามงบที่คุณมี

เช่ารถขับเอง ไป วัดธรรมิการาม (เขาช่องกระจก)

อยู่สุดปลายถนนสู้ศึก ตรงอ่าวประจวบ เป็นวัดบนภูเขาขนาดย่อมๆ ที่เป็นดังสัญลักษณ์ของเมืองประจวบฯ บนยอดเขาประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง อีกทั้งยังมีองค์เจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยไฮไลต์ของที่นี่นอกจากการได้ชมวิวบนยอดเขาแล้ว ในบริเวณของวัด จะมียอดเขาที่มีช่องทะลุโปร่งคล้ายกรอบกระจก เป็นมุมยอดฮิตไม่ว่าใครก็ต้องไปถ่ายรูปชมวิวกัน แต่ที่นั่น ควรระมัดระวังของมีค่าเอาไว้ด้วย เพราะ มีฝูงลิงแสม ที่อาจจะฉกของรักของคุณได้

สะพานสราญวิถี

สะพานปลาสีแดง อันเก่าแก่ ใกล้ๆ กับ เขาช่องกระจก กลางเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถเห็นวิวทะเลอันกว้างใหญ่ของอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ได้เต็มตา และสูดอากาศจากลมทะเลเข้าไปอย่างเต็มปอด หากชอบถ่ายรูปก็ไปถ่ายมาเยอะๆ ละ นอกจากนี้ในทุกวันศุกร์ และ วันเสาร์ จะมีถนนคนเดินประจวบ ใกล้ๆ สะพานสราญวิถี ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. ที่จะมีอาหารให้เลือกซื้อรับประทานกันมากมาย

วนอุทยานเขาตาม่องล่าย

ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่าวน้อย ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาตาม่องล่าย มีลักษณะเป็นเทือกเขาติดกับอ่าวประจวบฯ ทอดตัวเป็นแนวยาว บริเวณชายฝั่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกของวนอุทยานฯ แห่งนี้ ประกอบไปด้วยลานกางเต็นท์และบ้านพัก ภายใต้บรรยากาศเงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อน มีอาหารทะเลสด ปลอดสารพิษ ที่ชาวประมงพื้นบ้านในราคาย่อมเยาว์

นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเขาตาม่องล่ายที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยว สามารถเดินเท้าขึ้นไปพิชิตยอดเขาและสัมผัสกับความสวยงามในมุมสูงของ ทิวทัศน์แบบ 360 องศา การเดินทางสำหรับการเช่ารถขับเองนั้น ให้ใช้ถนนปิ่นอนุสรณ์ที่ออกมาจากเขาช่องกระจก ที่มี 'สะพานบางนางรม' ตรงไปตลอดทาง จนมีป้ายเข้าไปยัง 'เขาตาม่องล่าย' ก็เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย

หาดคลองวาฬ

ชายหาดอันเงียบสงบที่ไม่ไกลจากตัวเมืองประจวบฯ มากนัก ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นชายหาดทรายที่มีการผสมเลน อาจจะไม่ได้สวยงดงามเท่าหาดดังอื่นๆ และไม่เหมาะกับการเล่นน้ำมากเท่าไหร่ แต่ก็มีวิวสวยๆ ให้เราได้ชมได้ชาร์จพลังชีวิต ไม่แพ้ที่อื่นๆ ด้วยโรงแรมที่พักที่มีหลากหลายราคาให้เลือก ยิ่งในช่วงเวลากลางคืนนั้น เราสามารถนั่งเรือไปตกปลา ตกหมึกกลางทะเลได้ด้วย มีร้านอาหารทะเล ราคาไม่แพง พร้อม อาหารทะเลแห้งแปรรูป ราคาไม่แพงอยู่รอบๆ หาดด้วย เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของ ประจวบคีรีขันธ์ ที่มาเที่ยวกันได้ทุกฤดูเลยจริงๆ

ส่วนการเดินทางนั้น หากไม่อยากวิ่งออกถนนเพชรเกษม ก็ให้ใช้เส้นทางจากตัวเมืองประจวบไปได้เลย ด้วยทางหลวงชนบท ปข.1041 เลาะมาด้านข้างของอ่าวมะนาว มุ่งหน้าไป พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ กับ คลองวาฬ จนเห็นสะพานตัว U ข้ามทางรถไฟสายใต้ ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 3167 ก็เข้าถึง บ้านคลองวาฬ และ หาดคลองวาฬ แล้ว

Visitors: 154,368