เช่ารถขับเอง เลาะทางหลวง หมายเลข 333

เช่ารถขับเอง เลาะทางหลวง หมายเลข 333 ถนนทางลัดสู่ภาคเหนือ

ในอนาคตอาจจะมีบทบาทมากขึ้น หลังการมี มอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี นั่นก็คือ ทางหลวง หมายเลข 333 สายอู่ทอง-ท่าน้ำอ้อย มาดูว่า ทางหลวงเส้นนี้ เป็นอย่างไร ที่จะทำให้เป็นส่วนช่วยในการเช่ารถขับเองของคุณ ยิ่งในช่วงเทศกาลด้วยแล้ว หรือ วันหยุดยาวๆ แน่นอน ผู้คนก็ต้องอยากเดินทางไปยังภาคเหนือ ที่เป็นจุดที่ที่ใครที่ต้องเดินทางไปให้ได้ ส่งผลให้ถนนเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือ เส้นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ถนนสายเอเชีย หรือ ทางหลวง หมายเลข 32 มีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก จนบางคนที่ต้องการทำเวลาใยนการเดินทางไปถึงให้สั้นที่สุด จึงจำเป็นต้องการเส้นทางเลี่ยงรถเยอะเช่นนี้ โดยทาง BANANA rent-a-car จะมาแนะนำเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งที่เคยเป็นเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือในช่วงหนึ่ง

วิ่งขึ้นเหนือผ่าน 3 จังหวัดภาคกลางในการเช่ารถขับเอง

โดยทางหลวง หมายเลข 333 สายอู่ทอง-ท่าน้ำอ้อย เป็นเส้นทางที่เป็นมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ที่บรรดาคนขับรถ โลจิสติกส์ รวมไปถึง คนที่ขับรถส่วนตัว หรือ คนที่เช่ารถขับเอง ที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ มักจะรู้จักกัน แต่หากเป็นคนมาจากเมืองกรุงด้วยแล้ว นี่คือ เส้นทางลัด เลี่ยงรถติด ช่วงเทศกาล ที่ไม่มีใครรู้กันมากเท่าที่ควร

ในส่วนถนนเส้นนี้ เริ่มต้นตรงตัวอำเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ที่ตัดออกจากทางหลวง หมายเลข 321 หรือ ถนนมาลัยแมน ที่มาจาก จ.นครปฐม ซึ่งจะผ่านตัวอำเภอรอบนอกฝั่งตะวันตกของสุพรรณบุรี ทั้งหมด เช่น อ.อู่ทอง, อ.หนองหญ้าไซ และ อ.ด่านช้าง

จากนั้นจะเข้าเขต จ.อุทัยธานี ในเขต อ.บ้านไร่ และเลี้ยวไปยังฝั่งตะวันออก ผ่าน อ.ห้วยคต, อ.หนองฉาง และจะเข้าตัวเมืองอุทัยธานี ผ่านเขาสะแกกรัง ออกนอกเมืองอุทัย ข้ามแม่น้ำสะแกกรัง กับ แม่น้ำเจ้าพระยา ไปบรรจบกับทางแยกต่างระดับท่าอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เข้าทางหลวง หมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่กลุ่มจังหวัดทางภาคกลางตอนบน กับ ภาคเหนือ ได้เลย

เป็นเส้นทางสำคัญในช่วงวิกฤตของประเทศด้วย

ทางหลวง หมายเลข 333 เคยเป็นเส้นทางสัญจรหลัก ในการเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ เนื่องด้วยสถานการณ์อุทกภัย ครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ.2554 ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดของทางหลวงเส้นหลักๆ แต่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ยังสามารถเดินทางจนหน่วยงานขนส่งอะไรต่างๆ ก็หันมาใช้เส้นนี้กัน ทั้งหมด จนสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ

เช่ารถขับเอง แวะแลนด์มาร์คเด็ดๆ ที่อยู่ริมทางหลวง หมายเลข 333

  • พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา) จุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยสำหรับใครที่เป็นสายมูเตลู ตั้งในเขต อ.อู่ทอง เป็นเขตพื้นที่ที่กรมศิลปากรยืนยันว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ และหลักฐานทางโบราณคดีที่มีข้อพิสูจน์ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย พระองค์ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา 9 สาย โดยส่วนนี้ เป็นสายที่ 8 ที่ได้ส่ง พระโสณะ และ พระอุตตรเถระ เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 3 ซึ่งปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทอง ใกล้กับ วัดเขาทำเทียม
  • เขื่อนกระเสียว ตั้งอยู่ในเขต อ.ด่านช้าง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำสร้างกั้นลำห้วยกระเสียว ยาว 4,250 เมตร สูง 32.5 เมตร พื้นที่กักเก็บน้ำ 28,750 ไร่ ปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุด 240 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นเขื่อนดินที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง อาทิ ปลานิล ปลาม้า ปลาบึก และ กุ้ง ที่หลายคนออกปากว่ารสชาติดี รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทิวทัศน์สวยงาม กลางวันอากาศค่อนข้างร้อน ช่วงเย็นอากาศดีมาก โดยเฉพาะจุดตั้งแคมป์ริมเขื่อนเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
  • วัดสังกัสรัตนคีรี ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองอุทัยธานี ติดกับตีนเขาสะแกกรัง วัดนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ทั่วประเทศ เพราะที่แห่งนี้ จะมีการจัดงาน "ประเพณีตักบาตรเทโว" ที่จะมีพระสงฆ์มากกว่า 500 รูป เดินลงมาตามบันไดกว่า 449 ขั้น จากบนยอดเขาสะแกกรัง มายังลาน วัดสังกัสรัตนคีรี ด้านล่าง เพื่อรับบิณฑบาต ให้อารมณ์คล้ายกับวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อเทศนาโปรดพระมารดา ในวันออกพรรษา ที่จะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี
เช่ารถขับเอง มาถึงตัวเมืองอุทัยธานีทั้งที ไปไหนดี นอกจาก วัดสังกัสรัตนคีรี
  • ตลาดโบราณริมแม่น้ำสะแกกรัง ตั้งอยู่บนถนนสะแกกรัง 1 ใจกลางเมืองอุทัยธานี เป็นตลาดโบราณอาคารไม้เก่า และอีกฝั่งติดแต่น้ำสะแกกรัง โดยมีสินค้าจำหน่ายมากมายไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว อาหาร ขนม ของสดต่างๆ โดยเฉพาะปลาท้องถิ่น อย่าง 'ปลาแรด' ที่เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัด ตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น หยุดทุกวันพุธ ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบท้องถิ่นที่เรียบง่ายและมีความเป็นกันเอง
  • ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา เป็นอีกหนึ่งสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนเรื่องราวและบรรยากาศของความเป็นเมืองอุทัยได้เป็นอย่างดี โดยจะมีทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็น จนถึง สองทุ่ม บรรยากาศจะเป็นอาคารห้องแถวทำจากไม้สุดคลาสิค มีทั้ง อาหารคาวหวาน และ ขนมโบราณ ของฝากของที่ระลึก ของโบราณต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะ บ้านนกเขา กับ บ้านรักษ์อุทัย ที่ต้องแวะมาให้ได้เลยทีเดียว
ชมจุดแม่น้ำสะแกกรัง กับ แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลมาบรรจบกัน

นอกจากนี้ มาถึงอุทัยธานีแล้ว ที่มีแม่น้ำสายใหญ่ประจำจังหวัด อย่าง แม่น้ำสะแกกรัง ที่จะไหลไปทางทิศใต้ ซึ่งจะไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ตรง 'สะพานมโนรมย์' ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยัง อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ได้ โดยใช้ทางหลวง หมายเลข 3265 ที่ตัดออกจากทางหลวง หมายเลข 333 ตรงสามแยกโคกหม้อ ตัวเมืองอุทัยธานี ผ่าน วัดท่าซุง ก็จะข้ามสะพานมโนรมย์ พอมองมุมสูงๆ ก็จะเห็น แม่น้ำสะแกกรัง กับ แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลมาบรรจบกันอย่างชัดเจน

Visitors: 172,866