เช่ามอไซต์กรุงเทพฯ ไปเที่ยวอยุธยา
เช่ารถมอเตอร์ไซค์ กรุงเทพฯ
วันนี้ BANANA rent-a-car จะมาการมองหารถมอเตอร์ไซค์เช่าเหมาะมือซักคันหรือรถทดแทน หากคุณใช้เป็นรถทดแทนระหว่างนำรถมอเตอร์ไซค์
ของตัวเองเข้าซ่อม รวมทั้งตอนนี้มีอาชีพใหม่ที่น่าสนใจ คือ ขับ grab bike, Line man หรือ ขับ Food Panda เพื่อส่งเอกสารหรืออาหาร เป็นต้น
แต่ในวันนี้เราจะขอเสนอทริปสั้นๆ เช่ารถมอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพฯไปอยุธยา จังหวัดใกล้ๆ การเดินทางด้วยมอเตอร์ก็ได้ฟิลลิ่งไปอีกแบบ หากคุณชอบ
ต่อไปคุณสามารถเก็บเงินได้สักก้อน เราค่อยไปซื้อรถมอร์เตอร์ไซค์ มาไว้เป็นของเราเองก็ได้ ดังนั้นการเช่ารถมอร์เตอร์ไซค์ กรุงเทพฯ กับ BANANA rent-a-car
จะช่วยให้เราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการเช่ารถมอร์เตอร์ไซค์ ได้อย่างคุ้มค่า มาดูว่ารายละเอียดในการเช่ามอเตอร์ไซค์ กรุงเทพฯ
จะต้องใช้อะไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ลองไปดูกันเลย !!
เช่ารถมอเตอร์ไซค์ กรุงเทพฯกับ BANANA rent-a-car มีราคาเท่าไหร่บ้าง?
1. เช่ารถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า เวฟ 125 All New Honda Wave 125i (2019)
- ราคารายวัน 535 บาท/วัน
- ราคารายเดือน 8,560 บาท/เดือน
- เงินมัดจำ 3,000 บาท (ได้คืนหลังจากคืนรถ ภายใน 24 ชั่วโมง)
- การชำระเงิน โดยการโอนเงิน เท่านั้น (ไม่รับเงินสด)
3. เช่ารถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า คลิก 125 เกียร์ออโต้ All Click 125i (2019)
- ราคารายวัน 535 บาท/วัน
- ราคารายเดือน 8,560 บาท/เดือน
- เงินมัดจำ 3,000 บาท (ได้คืนหลังจากคืนรถ ภายใน 24 ชั่วโมง)
- การชำระเงิน โดยการโอนเงิน เท่านั้น (ไม่รับเงินสด)
- บัตรประชาชน
- ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
- บัตรเครดิต หรือ สลิปเงินเดือน หรือ บัตรนักศึกษา
เงื่อนไขการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ กับเรา
- รับรถมอเตอร์ไซค์ ทางเราจะเติมน้ำมันเต็มถัง ส่วนในวันคืนรถมอเตอร์ไซค์ ลูกค้าเติมน้ำมันคืนให้เต็มถัง (ใช้น้ำมันแก็สโซฮอล 91)
- การเช่ารถมอเตอร์ไซค์ จะใช้การนับ 24 ชั่วโมง เช่นรับรถมอเตอร์ไซค์ วันจันทร์ เวลา 08.00 น. คืนรถมอเตอร์ไซค์ วันอังคาร เวลา 08.00 น.
- กรณีมีอุบัติเหตุ เงินมัดจำจะไม่ได้คืน เพราะจะเอาไปใช้เป็นค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์
- เงินมัดจำ ได้คืนเต็มจำนวนหลังจากคืนรถมอเตอร์ไซค์ ภายใน 24 ชั่วโมง โดยการโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้า
- การเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เพิ่ม จากสัญญาเดิม ลูกค้าจะต้องโอนเงินค่าเช่าเพิ่ม ก่อนเวลาที่จะหมดในสัญญาเดิม
ทริปกรุงเทพฯไปอยุธยาด้วยมอเตอร์ไซค์
หลังจากรู้แล้วว่าเช่ารถยังไงเรามาดูกันเลย ว่าหากเราขับไปอยุธยาจะมีจุดเช็คอินไหนน่าสนใจบ้าง !! มาดูกัน
ตลาดลาดชะโด
ใครมา เที่ยวอยุธยา แล้วไม่มา ณ ที่ตลาดแห่งนี้ ถือว่าพลาดมากกก เพราะ ตลาดลาดชะโด เป็นตลาดที่เก่าแก่นับ 100 ปี เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นใครที่ได้มาสัมผัสที่นี่จะรู้สึกเหมือนเข้าไปในห้วงภวังค์ของอยุธยาย้อนยุคจริง ๆ ที่นี่มีการพัฒนาการมาจากตลาดน้ำที่มี
เรือนแพค้าขายของชาวจีน แต่ปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างตลาดริมน้ำและบนบกให้กว้างมากขึ้นกว่า 100 คูหา และที่ตลาดลาดชะโดยัง
เป็นโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์-ละครหลายเรื่องที่เคยยกกองมาถ่ายทำ อาทิ บุญชู, รักข้ามคลอง ไม่ต้องบอกเลยว่าที่นี่มันดีต่อใจ
ขนาดไหน
ตลาดโก้งโค้ง
ตลาดโก้งโค้ง ที่เที่ยวอยุธยา ตลาดน่ารัก ๆ แบบไทย ๆ ซึ่งภายในตลาดเหล่อพ่อค้า แม่ค้า จะนั่งขายของอยู่บนพื้น คนที่มาจับจ่าย ใช้สอย
สินค้าต่าง ๆ ก็ต้องโก้งโค้งดูสินค้านั่นเอง บรรยากาศภายในตลาดจะชวนทำให้เรานึกถึงสมัยอยุธยา เนื่องจากการตกแต่งจะมีลักษณะเป็น
บ้านเรือนไทยหมู่ใหญ่ เป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณ และมีข้าวของมากมายให้เราได้เลือกซื้อ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนมโบราณ
ผลไม้ต่างๆ จนไปถึงเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน ของแต่งบ้านนานาชนิด หมายความว่ามาที่นี่คือครบครันมากเพราะมี
ทุกอย่างสากกะเบือยันเรือรบเลยทีเดียว
ตลาดหลวงปู่ทวด อยุธยา
ใครที่เดินทางมาสักการะ หลวงปู่ทวด ที่อยุธยากันแล้ว อยากจะหาตลาดใน อยุธยาที่เที่ยว เดิน ชม ช้อป ชิม แชะ กันบ้าง ต้องมาเจอ
ที่นี่เลยค่ะ ตลาดหลวงปู่ทวด อยุธยา อยู่หลังรูปปั้น หลวงปู่ทวด เลยตลาดหลวงปู่ทวด ตั้งอยู่ที่บริเวณโครงการพุทธอุทยาน
มหาราชหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ที่นี่มีเลือกมากมายนับไม่ถ้วน หรือจะเป็นของฝาก ก็มีค่ะ ที่นี่เน้นการตกแต่งไปในลักษณะโบราณ
บ้างก็เป็นเพิงฟาง บ้างก็เป็นกระท่อมเล็ก ๆ ใครมาที่นี่ก็จะรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคมาในสมัยอยุธยาเลย
วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดมหาธาตุ