บริการเสริมประกันภัย
สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม !! ทำไมถึงจะต้องมีประกันภัยรถเช่า ?
สำหรับการเดินทางบนท้องถนนที่มีจำนวนรถยนต์และมอเตอร์ไซด์เพิ่มมากขึ้นในทุกทุกวัน โดยมีค่าเฉลี่ยนับตั้งแต่ปี 2548 มาจนถึงปัจจุบันมีรถจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 800 คัน
และมีค่าเฉลี่ยรวมรถทุกประเภทที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้มีมากกว่า 190,000 คันต่อปี ทำให้ไม่ว่าจะเป็นถนนสายใด มีการจราจรติดขัดหรือไม่ ถนนสายในต่างจังหวัดหรือในเมืองหลวงย่อมมี
สิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะเลิกเลี่ยงไม่ได้เลยนั้นก็คือ “ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ” ความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าฝีมือการขับขี่ แม้ว่าชั่วโมงบินในการขับรถจะสูงเพียงใด ก็ยังมีความ
เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอด
ประกันรถเช่า
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุไปได้ “แต่การป้องกันหรือการเตรียมความพร้อมหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นฝากไว้กับการทำประกันภัยรถยนต์” คือสิ่งที่ถูกต้องและควรกระทำเป็นอย่างมาก
โดยทางสามารถแยกประเภทของประกันภัยได้ 2 แบบเป็นหลัก
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือที่รู้จักกันในชื่อ พ.ร.บ. ที่รถทุกคันจะต้องมีติดรถเอาไว้เพื่อสร้างความคุ้มครองเบื้องต้น ทั้งตัวรถ ผู้ขับขี่และผู้โดยสายภายในและนอกรถ โดยมีค่าเสียหายเบื้องต้นจ่ายตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท
และรวมทุกกรณีไม่เกิน 65,000 บาท รวมไปถึงค่าชดเชยรายใหม่หากในกรณีผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์เองเป็นฝ่ายที่ถูก จะมีค่าชดเชยรายวันให้ 200 บาทต่อวันไม่เกิน 20 วัน หรือทั้งหมดทั้งสิ้นรวมไม่เกิน 240,000 บาท แต่หาก
ในกรณีที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีผู้กระทำผิดได้ ผู้ประสบเหตุจะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าความเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น (อ้างอิงจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535)
ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
ประกันภัยในประเภทนี้ รถยนต์จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่รถยนต์ส่วนมากจะให้ความสำคัญกับประกันภาคสมัครใจด้วยเช่นเดียวกันเพราะเนื่องสามารถเติมเต็มช่องว่างที่ประกันภาคบังคับไม่สามารถชดเชยได้ ทั้งนี้ระดับในความคุ้มครอง
และเบี้ยการชดเชยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่เจ้าของรถเป็นผู้เลือก (โดยสามารถเลือกชดเชยได้ตั้งแต่ในกรณีที่เป็นฝ่ายถูก และชดเชยทุกอย่างทุกแม้จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม)
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาจะเป็นรูปแบบของประกันภัยสำหรับรถยนต์ทั่วไป ที่ใช้งานในรูปแบบส่วนบุคคลหรือการใช้งานทั่วไป ซึ่งจะมีข้อแตกต่างสำหรับประกันภัยสำหรับรถที่นำไปประกอบธุรกิจ “รถเช่า” อยู่พอสมควรทั้งในแง่ความ
คุ้มครองและขอบเขตของตัวประกับภัยเองเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่า “ประกันภัยรถเช่าจะมีทั้งแบบติดมากับตัวรถ และการทำเพิ่มเติมสำหรับผู้เช่า” จุดประสงค์หลักของการทำประกัน ก็คือการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายทีแสนหนักเมื่อ
เกิดเหตุไม่คาดฝัน จนทำให้ตัวรถมีความเสียหายเกิดขึ้นโดยส่วนมาก รถเช่า ที่มีให้บริการกันอยู่หลายบริษัทจะมีความเข้าใจที่ผิดพลาดในส่วนที่ว่า “ประกันภัยที่ทำจะครอบคลุมความเสียหายในทุกกรณี” และจุดนี้นี่เองอาจจะถือเป็น
ความผิดพลาดของเจ้าของ บริษัทรถเช่า หลายแห่ง หรือตัวบริษัทประกันภัยเองด้วยเช่นกัน ที่ไม่เปิดเผยของมูลที่ชัดเจนและทำความเข้าใจกันตั้งแต่แรกว่าประกันที่ทำไปนั้นจะครอบคลุมความเสียหายในกรณีการนำไปรับจ้างรับส่งผู้
โดยสารหรือการใช้ในบริการให้เช่า โดยเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้ประกอบเองตามสถิติของบริษัทประกันภัยก็คือ
ซื้อรถและทำประกันภัยในนามบุคคลก่อนจะเปลี่ยนเป็นป้ายเขียวหรือเหลืองเพื่อรับส่งผู้โดยสารซื้อรถและทำประกันภัยในนามบุคคลโดยนำไปร่วมกับบริษัทรถเช่าหรือประกอบ ธุรกิจรถเช่าซึ่งทั้งสองกรณีนี้มักเกิดการโต้แย้งระหว่าง
บริษัทประกันและเจ้าของบริษัทรถยนต์กันอยู่เป็นประจำ เพราะการนำรถยนต์ไปเช่าถือเป็นการผิดสัญญาตามกรมธรรม์โดยอัตโนมัติกันอยู่แล้วตามหลักประกันภัยและเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่ลูกค้าผู้เช่าใช้
บริการอยู่นั่น ความเสียหายหลักก็จะตกมาอยู่ที่ตัวผู้ขับในขณะนั้นเป็นหลัก เพราะเมื่อเจ้าของบริษัทประกันภัยไม่สามารถเบิกได้จากบริษัทประกันภัยแล้ว ผู้ที่จะต้องรับค่าใช้จ่ายค่าความเสียหายจำนวนมาก็คือตัวผู้เช่านั้นเองหากจะกลับมา
ตอบคำถามที่ว่า ทำไมถึงจะต้องมี ประกันภัยรถเช่า ? คำตอบก็คงจะไม่ยากเย็นที่จะอธิบายว่า “ก็เพราะประโยชน์ของตัวบริษัทรถเช่าเองและประโยชน์ต่อตัวผู้เช่า” ถือเป็นประโยชน์ที่จะสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อย่างแน่นอน
เพราะสบายใจหายห่วงได้เลยว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าหนักหรือเบาก็จะมีบริษัทประกันคอยสนับสนุนอยู่อีกทางหนึ่ง
BANANA rent-a-car เราได้ให้บริการประกันภัยสำหรับรถเช่าแบบรายวันและรายเดือนทุกรุ่นทุกประเภท
ลูกค้าสามารถซื้อประกันภัยแบบ SCDW เพิ่มได้ แนะนำให้ซื้อเพิ่ม เพราะลูกค้าจะได้ประโยชน์สูงสุดที่ไม่ต้องจ่ายค่าดีดักเพิ่ม) กรณีที่ลูกค้าทำประกันภัยแบบ SCDW ประกันภัยจะคุ้มครองรอยด้านนอกรถยนต์
เงื่อนไขประกันสำหรับรถเช่า
- ค่ารถยกทั้งหมด ฟรีค่ารถลากรถยก 20 กิโลเมตรแรก หลังจากนั้นลูกค้าต้องจ่ายเองหรือตามที่ประกันภัยเรียก
- ยางรถยนต์ หากยางรั่วลูกค้าต้องซ่อม ปะยางมาคืนบริษัท หากยางแตกลูกค้าจะต้องซื้อยางยี่ห้อเก่า และลายเดิมให้บริษัทใหม่
- อุปกรณ์ภายในรถยนต์ทั้งหมด เช่น เอกสารภายในรถยนต์ เบาะรถยนต์ ยางอะไหล่ แม่แรง กุญแจและอื่นๆ เป็นต้น หากอุปกรณ์ที่ลูกค้าทำชำรุดหรือสูญหายในระหว่างการเช่ารถยนต์ ลูกค้าต้องจ่ายค่าปรับทั้งหมดตามรายการที่บริษัทเรียกเก็บ
- รอยด้านนอกตัวรถ หากลูกค้าเป็นฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าเคลมประกันภัยส่วนแรก หรือค่า deduct /Excess ในส่วนด้านนอกตัวรถ ที่ต้องถูกหัก ต่อแผลต่อครั้ง
| |||
รถขนาดเล็ก (SS) 1,200 cc |
214 |
3,210 |
4,280 |
รถขนาดเล็ก (S) 1,500 cc |
268 |
4,280 |
5,350 |
รถขนาดกลาง (M) 1,800 cc |
321 |
4,280 |
5,350 |
รถขนาดใหญ่ (L) 2,000 cc หรือรถที่ใหญ่มากกว่านั้น |
535 |
4,280 |
5,350 |