เช่ารถตู้พร้อมคนขับ ไป แม่ฮ่องสอน ผ่านทางหลวง 108

จ. แม่ฮ่องสอน เมืองในสายหมอกที่มีความท้าทายในการเดินทางสูง เพราะ สภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน และมีสถานที่น่าสนใจไม่น้อย แน่นอนการเช่ารถตู้ำพร้อมคนขับ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะ คนขับรถตู้ ทั่วๆ ไป ต้องมีชั่วโมงบินที่สูง ประสบการณ์ในการขับทางไกล โดยเฉพาะขึ้นเขาขึ้นดอย น่าจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ซึ่งการเดินทางไปยัง แม่ฮ่องสอน ก็ต้องแวะจุดที่น่าสนใจอยู่พอสมควร บนทางหลวง หมายเลข 108 มาดูว่า มีจุดไหน น่าแวะในการเช่ารถตู้พร้อมคนขับ ก่อนเข้าเมืองแห่งสายหมอกนี้ ลองไปติดตามกันได้เลย

แนะนำเส้นทางก่อน ว่า ทางหลวง หมายเลข 108 จากไหน ไปถึงไหน

ทางหลวง หมายเลข 108 สายเชียงใหม่–แม่ฮ่องสอน เป็นถนนที่ผ่านไปยังตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มต้นตรงสี่แยกสนามบิน เขต อ.เมือง เชียงใหม่ ใกล้ๆ เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา เชียงใหม่ ผ่าน อ.หางดง, อ.สันป่าตอง, อ.ดอยหล่อ-จอมทอง, อ.จอมทอง และ อ.ฮอด และจะเข้าสู่เขต จ.แม่ฮ่องสอน ในเขต อ.แม่สะเรียง ผ่าน อ.แม่ลาน้อย, อ.ขุมยวม และไปสิ้นสุดตรง สี่แยกประตูเมืองแม่ฮองสอน ด้านใต้ ของ อ.เมือง แม่ฮองสอน ระยะทาง 350 กิโลเมตร จากนี้จะมาดูว่า ระหว่างทางนั้น มีที่ไหนเป็นจุดเช็คอินริมทางหลวง หมายเลข 108 เส้นนี้กัน

1. ดอยอินทนนท์

ตั้งอยู่ในเขต อ.สันป่าตอง เป็นยอดดอยสูงเสียดฟ้าอันดับ 1 ของเมืองไทย ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถึงแม้จะเป็นยอดดอยที่สูงที่สุด แต่ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ค่อยมีข้อจำกัดในการเดินทาง แม้ถนนอาจคดเคี้ยวบ้างในบางจุด แต่สภาพถนนหนทางดีตลอดทั้งเส้นสามารถท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือพักค้างคืนดื่มดำบรรยากาศ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัย

2. วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร

ตั้งอยู่ในตัว อ.จอมทอง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของ ปีชวด (ปีหนู) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง อำเภอจอมทอง มาเนิ่นนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1995 ซึ่งมีความสำคัญทางพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของ พระบรมสารีริกธาตุ พระทักขิณโมลีธาตุ (พระเศียรเบื้องขวา) ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ไฮไลต์ของที่นี่คือ พระเจดีย์ศรีจอมทอง องค์เจดีย์สีทองอร่าม เป็นเอกลักษณ์ของวัดพระธาตุศรีจอมทองแห่งนี้ สร้างด้วยศิลปะล้านนา บริเวณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม เรียกว่า “ยกเก็จ” ส่วนบริเวณยอดเป็นฐานวงกลม ซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้น นอกจากนี้ภายในวัดยังมี อาคารพิพิธภัณฑ์ ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุศรีจอมทองแห่งนี้, ศาลาการเปรียญ, โรงเรียนพระปริยัติธรรม, สำนักปฏิบัติธรรม, กุฎิสงฆ์ และอื่นอีกมากมาย และเนื่องจากพระธาตุศรีจอมทองนับเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ปีชวด จึงมีตุ๊กตารูปหนูวางรายล้อมเป็นสัญลักษณ์อยู่มากมาย

3. สวนสนบ่อแก้ว

อยู่ที่ อำเภอฮอด บนเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง เป็นบริเวณของพื้นที่ใช้สำหรับทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่างๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์จาก ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ หรือ ไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมกับการเป็นไม้เบิกนำที่จะปลูกบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ

ใครที่ผ่านมายังถนนเส้นทางนี้ จะมองเห็นต้นสนสวยๆ แต่ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวสุดๆ ก็คงจะเป็นแนวต้นสนด้านหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้าย ที่ปลูกเรียงไว้เป็นแถวอย่างสวยงาม เลยมีนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายภาพสวยๆ กันอย่างไม่ขาดสาย จนได้รับฉายาว่า เกาะนามิเมืองไทย แบบที่ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี เวลาที่ควรมาและได้ฟิลโรแมนติกสุดๆ ควรมาตอนเช้าๆ ไม่ก็เย็นๆ เพราะจะมีแสงแดดอ่อนๆ ทำให้เกิดภาพความสวยงาม ประหนึ่งว่าเป็นภาพจากซีรี่ย์เกาหลีชื่อดังแบบนั้นเลย

4. อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ขุนยวม

ตั้งอยู่ที่ ตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ริมถนนที่จะมุ่งหน้าไปยัง อ.เมือง แม่ฮ่องสอน โดยสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ที่ตรงนี้ ในสมัยที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่ถอยจากแนวรบในพม่า ได้เข้ามาที่อำเภอขุนยวม แห่งนี้ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 และได้มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ระหว่างอดีตทหารญี่ปุ่นกับชาวบ้านในพื้นที่

แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ ผ้าไหมญี่ปุ่น ขนาด 0.5x2 เมตร ซึ่งมีข้อความลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ที่ทรงประทานให้แก่กองทัพญี่ปุ่น โดยเนื้อหานั้นจะกล่าวถึงเหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องเข้าร่วมสงครามโลก และว่ากันว่ามีแค่เพียง 5 ผืนในโลกเท่านั้น พร้อมด้วยสิ่งของที่เป็นของกองทัพจากแดนอาทิตย์อุทัย ทั้ง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาวุธ ทั้ง อาวุธปืน กระสุน ระเบิด มีดดาบซามูไร ชุดทหาร เครื่องใช้ต่างๆ และแสดงแบบจำลองพื้นที่เดินเท้าของกองทัพ ก็มีแสดงให้ชมกันได้เช่นกัน

5. วัดพระธาตุดอยกองมู

มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เมื่อมาถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็จะต้องแวะที่ที่เป็นแลนด์มาร์ค อย่าง วัดพระธาตุดอยกองมู วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 กิโลเมตร เป็นที่บรรจุพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ เถระ ซึ่งนำมา จากประเทศพม่า

ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน คนแรก จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้ สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน และสวยงามมาก และต้องมาถ่าย "ผู้พิชิต 1,864 โค้ง" ไว้เป็นที่ระลึกด้วย เพื่อได้อวดว่าเราได้มาถึงจังหวัดตะวันตกสุดของภาคเหนือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นเอง